การรวมตัวของทองคำอาจกำลังจะสิ้นสุดลง โมเมนตัมกำลังจะระเบิดหรือไม่?
2025-07-18 21:59:58

จำนวนใบอนุญาตก่อสร้างในสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 1.39 ล้านใบ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.394 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนจำนวนการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 1.321 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดีกว่าที่ลดลง 9.7% ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ความแตกต่างด้านนโยบายของเฟดทวีความรุนแรงขึ้น และการเก็งกำไรในตลาดก็ร้อนแรงขึ้น จากเครื่องมือ FedWatch ของ CME ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอยู่ที่ 56.2% โดยคาดว่าจะลด 25 จุดพื้นฐาน และมีโอกาส 41.2% ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยบางคนมีท่าทีแข็งกร้าว และบางคนก็เลือกที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
พื้นฐาน
แนวโน้มราคาทองคำในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ดังนี้
1. ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดของสหรัฐฯ โดยรวมเป็นไปในเชิงบวก โดยมีใบอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่เกินความคาดหมาย การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วยลดความกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ได้บ้าง และส่งผลให้ราคาทองคำลดลงในระดับหนึ่ง
2. ความแตกต่างด้านนโยบายของเฟดกระตุ้นการเก็งกำไรในตลาด เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยโดยตรง 25 จุดพื้นฐานในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ดาลี ประธานเฟดประจำซานฟรานซิสโก เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2568 เป็นเรื่องที่ "สมเหตุสมผล" แต่ระมัดระวังผลกระทบของนโยบายที่เข้มงวดเกินไปต่อตลาดแรงงาน ในทางตรงกันข้าม คูเกลอร์ ผู้ว่าการเฟด มีท่าทีแข็งกร้าวมากกว่า โดยเชื่อว่าภาษีศุลกากรล่าสุดได้ส่งผลต่อราคาผู้บริโภค และควรคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อไป และการลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ยังไม่เหมาะสม ความแตกต่างที่มีอยู่ทำให้ความคาดหวังของตลาดผันผวน และทองคำก็เข้าสู่ภาวะทรงตัว
3. การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในระยะกลาง ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายนแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลื่อนการลดอัตราดอกเบี้ยออกไป
ด้านเทคนิค:
หากพิจารณาจากกราฟรายวัน จะเห็นได้ว่าทองคำกำลังแกว่งตัวอยู่ในรูปสามเหลี่ยมสมมาตรที่ชัดเจน ซึ่งก่อให้เกิดรูปแบบการรวมตัวในระยะสั้น
ตัวบ่งชี้ Bollinger Band: เส้นกลางของ Bollinger Band อยู่ที่ 3,343.98 ดอลลาร์ เส้นบนอยู่ที่ 3,408.44 ดอลลาร์ และเส้นล่างอยู่ที่ 3,279.52 ดอลลาร์ ราคาปัจจุบันกำลังเคลื่อนตัวใกล้เส้นกลาง บ่งชี้ว่าความผันผวนกำลังมาบรรจบกัน และคาดว่าจะมีการเลือกทิศทางในเร็วๆ นี้

แนวรับและแนวต้าน: ระดับแนวรับสำคัญในปัจจุบันอยู่ด้านล่างที่ 3,280 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนแนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหลังจากที่ทะลุผ่านแล้ว คาดว่าจะทดสอบระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 3,451 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวบ่งชี้ MACD: ฮิสโทแกรม MACD กำลังค่อยๆ บรรจบกัน และเส้น DIFF (3.19) และเส้น DEA (1.91) อยู่ในสถานะเหนียวแน่น ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมหมดลงแล้ว และมีความน่าจะเป็นสูงที่จะเกิดการช็อกในระยะสั้น แต่เมื่อเกิดการทะลุผ่านของปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก แนวโน้มอาจก่อตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ตัวบ่งชี้ RSI: ปัจจุบันตัวบ่งชี้ RSI อยู่ที่ 53.64 ซึ่งอยู่ในบริเวณเป็นกลางและยังไม่เข้าสู่บริเวณซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังคงรอสัญญาณทิศทางใหม่
โดยรวมแล้ว การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าทองคำอยู่ที่ปลายของรูปสามเหลี่ยมสมมาตร และตัวชี้วัดทางเทคนิคบ่งชี้ว่าทองคำกำลังจะทะลุผ่าน ทิศทางอาจปรากฏในคืนนี้หรือต้นสัปดาห์หน้า
การสังเกตอารมณ์ตลาด:
ภาวะตลาดในปัจจุบันมีแนวโน้มไปทางรอดูสถานการณ์ (wait-and-see) และความแตกต่างระหว่างสถานะซื้อและสถานะขายของเทรดเดอร์ก็ทวีความรุนแรงขึ้น ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นบวกในระยะสั้นทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวล ส่งผลให้มีการปรับลดสถานะซื้อบางส่วนลง ในทางกลับกัน การถกเถียงเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟดยังคงทำให้กองทุนปลอดภัยยังคงอยู่ในสัดส่วนของทองคำเพื่อรักษาสภาพคล่อง ดัชนีความกลัวและความโลภของตลาดอยู่ในภาวะเป็นกลางและระมัดระวัง สะท้อนว่าเทรดเดอร์มักจะรอสัญญาณยืนยันเพิ่มเติม
แนวโน้มในอนาคต:
แนวโน้มขาขึ้น:
นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากทองคำสามารถทะลุแนวต้านที่ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถทะลุแนวรับบนของสามเหลี่ยมสมมาตรได้สำเร็จ และตลาดอาจนำพาแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ โดยคาดการณ์ระดับ 3,451 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป หรืออาจทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ได้ ณ เวลานี้ ความเชื่อมั่นของตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะบวก กองทุนอาจเร่งไหลเข้าตลาดทองคำ และสินทรัพย์ปลอดภัยจะกลับมาเป็นสินทรัพย์หลักอีกครั้ง
แนวโน้มขาลง:
นักวิเคราะห์เชื่อว่า หากราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าแนวรับที่ 3,280 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวรับด้านล่างของรูปสามเหลี่ยมหายไป อาจเปิดช่องให้ราคาทองคำปรับตัวลงต่อไป และโอกาสที่จะปรับตัวลงไปถึง 3,120 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือแม้กระทั่ง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แสดงท่าทีแข็งกร้าว หรือข้อมูลเงินเฟ้อยังคงปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้ตลาดมีแนวโน้มขาลงมากขึ้น
มุมมองระยะกลาง:
เมื่อพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมมหภาคในปัจจุบัน ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ ทองคำอาจผันผวนซ้ำๆ ภายในกรอบหนึ่ง รอจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนขึ้นในปัจจัยพื้นฐานมหภาค
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง