ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ซื้อขายอย่างระมัดระวังต่ำกว่า 66 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ความไม่แน่นอนของการค้าโลกยังคงตึงเครียด
2025-07-16 13:58:40

สหรัฐฯ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบแทนจากคู่ค้าสำคัญๆ ได้แก่ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก เกาหลีใต้ และอีก 17 ประเทศ ส่งผลให้โอกาสการค้าโลกที่กลมกลืนกันมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการภาษีเพิ่มเติม เนื่องจาก 22 ประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในระยะเวลา 90 วันของการสงบศึกด้านภาษี ขณะเดียวกัน หากสหภาพยุโรปไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ก่อนกำหนดเส้นตายใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคม สหภาพยุโรปก็พร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ซึ่งกันและกัน หากสหภาพยุโรปใช้มาตรการตอบโต้ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อาจทำให้ความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้น ทรัมป์ได้เตือนมานานแล้วว่าเศรษฐกิจใดๆ ที่ใช้มาตรการตอบโต้จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม
เป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะที่ผู้นำเข้าเริ่มผลักภาระภาษีศุลกากรไปยังผู้บริโภค แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังเร่งตัวขึ้น สิ่งนี้ทำให้ตลาดเกิดคำถามว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเดือนกันยายนหรือไม่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะ 2.7% ต่อปี ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าที่นำเข้าที่พุ่งสูงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญตลาดเตือนว่าแรงกดดันด้านราคาในปัจจุบันสะท้อนเพียงผลกระทบเบื้องต้นของภาษีศุลกากรที่มีต่อบางอุตสาหกรรมเท่านั้น และผลกระทบเต็มรูปแบบของภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่อหลายประเทศยังไม่ปรากฏ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขอเวลาเพิ่มเติมในการประเมินผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อภาวะเงินเฟ้อ

(กราฟรายวันของราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่วงหน้าเดือนกันยายน ที่มา: Yihuitong)
เมื่อเวลา 13:56 น. ตามเวลาปักกิ่ง ราคาล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ เดือนกันยายน ซื้อขายอยู่ที่ 65.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง