ดอลลาร์ที่แข็งค่าและท่าทีแข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ กดดันราคาทองคำ ราคาทองคำร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ขณะที่รอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร
2025-08-01 14:10:04
ท่าทีแข็งกร้าวล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ตลาดต้องประเมินตารางเวลาสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใหม่ ส่งผลให้ความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดดอกเบี้ยถูกกดราคาลง

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยแตะระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนดอลลาร์ฯ คือข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด โดยดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนมิถุนายน ขณะที่ดัชนีหลักทรงตัวที่ 2.8% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และตอกย้ำมุมมองที่ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัว
“ทั้งข้อมูลเงินเฟ้อและ GDP แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้เฟดไม่มีเหตุผลที่จะรีบผ่อนคลายนโยบายการเงิน” ผู้สังเกตการณ์เฟดรายหนึ่งกล่าว “สิ่งนี้จำกัดประสิทธิภาพระยะสั้นของทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง”
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าตั้งแต่ 10% ถึง 41% กับคู่ค้าหลายราย รวมถึงประเทศในเอเชีย ประเทศที่มีการขาดดุลการค้าจะถูกเรียกเก็บภาษีอย่างน้อย 15% มาตรการนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลด้านการค้าโลก กระตุ้นความต้องการของตลาดที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง และหนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลง นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์ ข้อมูลนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย คาดการณ์ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.2%
กราฟทองคำรายวันแสดงให้เห็นว่าราคากำลังอยู่ในช่วงพักตัวที่อ่อนแอ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,320 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตัวจำกัด หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงในระยะสั้น แนวต้านที่แข็งแกร่งกว่าจะอยู่เหนือระดับ 3,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากทะลุผ่านด้วยปริมาณการซื้อขายที่มาก อาจกระตุ้นให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นไปที่ระดับ 3,380 ดอลลาร์สหรัฐฯ และทะลุผ่านระดับ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป
ในทางกลับกัน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันมีแนวรับเบื้องต้นที่ระดับ 3,270 การหลุดลงมาต่ำกว่าระดับนี้อาจสร้างแรงกดดันขาลงเพิ่มเติม โดยมุ่งเป้าไปที่บริเวณ 3,240 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน การหลุดลงมาต่ำกว่าระดับนี้อีกครั้งอาจมุ่งเป้าไปที่ระดับจิตวิทยาที่ 3,200
ในแง่ของตัวบ่งชี้ MACD death cross ยังคงดำเนินต่อไปและคอลัมน์สีแดงสั้นลง แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมระยะสั้นอ่อนตัวลงแต่ไม่กลับตัว RSI กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณที่เป็นกลางและอ่อนแอ และไม่ได้ขายมากเกินไปอย่างชัดเจน

ความคิดเห็นของบรรณาธิการ:
ปัจจุบันราคาทองคำมีแนวโน้ม "ขาลงเชิงโครงสร้าง หนุนโดยความเชื่อมั่น" แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นและการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลก แต่การเฝ้าระวังเงินเฟ้อและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าของธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังกดดันราคาอย่างชัดเจน
หากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนกรกฎาคมแข็งแกร่ง ทองคำอาจทดสอบพื้นที่แนวรับทางเทคนิคต่อไป ในทางกลับกัน หากข้อมูลอ่อนแอหรือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มฟื้นตัวทางเทคนิค
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง