ราคาทองคำร่วงลงเกือบ 1% เนื่องจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง โดยเน้นที่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียในยูเครนและข้อมูลเงินเฟ้อ
2025-08-11 14:40:42

ราคาทองคำร่วงลงเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง
ราคาทองคำสปอตผันผวนและอ่อนตัวลงในวันจันทร์ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 3,363.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.34 น. ลดลงเกือบ 1% แม้ว่าราคาทองคำจะแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับลดลง เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยลดลงเกือบ 2% มาอยู่ที่ 3,422.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แมตต์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์อาวุโสของ City Index ระบุว่า การผ่อนคลายความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของราคาทองคำที่ลดลง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าเขาจะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียที่อลาสกาในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ข่าวนี้ช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมักเป็นที่ต้องการในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม ข่าวการประชุมระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียได้กระตุ้นความหวังในตลาด ทำให้นักลงทุนบางส่วนลดความต้องการทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลง และรอดูความคืบหน้าของการเจรจาแทน
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังจะมาเร็วๆ นี้
นอกจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะมาถึงก็เป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจเช่นกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีปัจจัยหนุนจากมาตรการภาษี แม้ว่าตัวเลขนี้จะยังไม่ถึงเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ก็อาจเป็นแนวทางสำคัญสำหรับนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด แมตต์ ซิมป์สัน คาดการณ์ว่าดัชนี CPI ที่แข็งแกร่งอาจผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดราคาทองคำลง
ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ราคาตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 90% ที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกันยายน และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปี 2568 โดยทั่วไปแล้ว การปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน เช่น ทองคำ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐที่อาจแข็งค่าขึ้นในระยะสั้นอาจจำกัดแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ ซิมป์สันเชื่อว่าแม้จะมีแรงกดดันต่อราคาทองคำ แต่นักลงทุนที่มองหาสินค้าราคาถูกก็มีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุน
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและการเปลี่ยนแปลงในสถานะการเก็งกำไร
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด ทรัมป์เรียกร้องให้วอชิงตันและปักกิ่งบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 12 สิงหาคม และเส้นตายที่ใกล้เข้ามาทำให้นักลงทุนตื่นตัวสูง ความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจกระตุ้นให้ตลาดเกิดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้าง อย่างไรก็ตาม การเจรจาที่ประสบความสำเร็จอาจยิ่งลดความน่าดึงดูดใจของทองคำลง
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ของสหรัฐฯ ระบุว่า นักเก็งกำไรทองคำในตลาดนิวยอร์กเมอร์แคนไทล์เอ็กซ์เชนจ์ (COMEX) ได้เพิ่มสถานะซื้อสุทธิ (long position) ขึ้นอีก 18,965 สัญญาในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 สิงหาคม ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 161,811 สัญญา ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าแม้ราคาทองคำจะลดลงในระยะสั้น แต่นักเก็งกำไรยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำในระยะยาว ความเชื่อมั่นของตลาดต่อทองคำอาจเป็นผลมาจากการคาดการณ์ถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
นักลงทุนควรตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร?
ขณะนี้ตลาดทองคำอยู่ภายใต้อิทธิพลของปัจจัยที่ซับซ้อนหลายประการ การผ่อนคลายความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ขณะที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่กำลังจะออกมาและการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำผันผวนขึ้นอีก นักลงทุนควรติดตามความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียและข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดในระยะสั้น หากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำตกต่ำลง ในทางกลับกัน หากข้อมูลอ่อนแอหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น สินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำอาจกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
ในระยะยาว ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหนุนทองคำ แมตต์ ซิมป์สันแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของตลาดในระยะสั้น การกระจายการลงทุน การติดตามข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค และการปรับกลยุทธ์อย่างยืดหยุ่น จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับสภาพแวดล้อมตลาดที่ซับซ้อนในปัจจุบัน

(กราฟราคาทองคำรายวัน ที่มา: Yihuitong)
เมื่อเวลา 14:37 น. ตามเวลาปักกิ่ง ราคาทองคำอยู่ที่ 3,365.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง