ข้อมูลการขายปลีกของสหรัฐฯ จะถูกเปิดเผย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าอีกครั้งได้หรือไม่?
2025-08-15 17:50:51

ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าภาษีศุลกากรได้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว และช่วยผ่อนคลายการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยบางส่วน ซึ่งเดิมทีเป็นผลมาจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ค่อนข้างอ่อนตัว ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดเริ่มพิจารณาข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) นักลงทุนก็ตระหนักว่าความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนกันยายนยังคงแข็งแกร่ง โดยตลาดกว่า 90% คาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 25 จุดพื้นฐาน ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลง
ข้อมูลสำคัญในวันนี้คือยอดขายปลีกของสหรัฐฯ และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น และอาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
พื้นฐาน
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจในสหรัฐฯ กำลังค่อยๆ ส่งต่อแรงกดดันด้านต้นทุนไปยังผู้บริโภคอันเนื่องมาจากผลกระทบของภาษีศุลกากร ข้อมูลนี้ช่วยให้ตลาดมีเบาะแสเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในอนาคต และยังส่งผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกด้วย แม้ว่าตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับตอกย้ำความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายการเงินที่ระมัดระวังมากขึ้น
นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยข้อมูลยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งจะเผยให้เห็นว่าภาษีศุลกากรส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างไร และจะส่งผลต่อการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะเดียวกัน การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็อาจเป็นเบาะแสใหม่ๆ ให้กับตลาดเช่นกัน
ด้านเทคนิค:
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แสดงให้เห็นว่าราคาปัจจุบันยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง Bollinger Bands บ่งชี้ว่าราคาก่อนหน้านี้เคยขึ้นไปถึงระดับบนที่ 98.66 และมีการย่อตัวลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันร่วงลงมาต่ำกว่า 98.00 ขณะที่ราคาเข้าใกล้ระดับล่างที่ 97.60 ตลาดกำลังตั้งคำถามถึงความแข็งแกร่งของแนวรับที่ระดับนี้

แถบ Bollinger บ่งชี้ถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีการดีดตัวกลับระยะสั้น แต่ราคาก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านแถบบนได้ แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม RSI บ่งชี้ว่าตลาดกำลังเข้าใกล้เขต oversold และไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงแรงกดดันขาลง
จากโครงสร้างกราฟ หากดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่สามารถทะลุแนวต้านเหนือ 98.32 ได้ในระยะสั้น ดัชนีจะยังคงผันผวนและปรับตัวลงต่อไป แนวรับกระจุกตัวอยู่ที่ 97.60 หากหลุดลงมาต่ำกว่านี้ ความเสี่ยงขาลงอาจเพิ่มขึ้นและทดสอบระดับ 97.00
การสังเกตอารมณ์ตลาด:
ขณะนี้ความเชื่อมั่นของตลาดแสดงให้เห็นถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในระดับหนึ่ง การคาดการณ์การพบปะกันระหว่างทรัมป์และปูติน ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งผลักดันให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ จะแข็งแกร่ง แต่ความคาดหวังของตลาดต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และความเชื่อมั่นในเชิงลบยังคงมีอิทธิพลเหนือตลาด
ความรู้สึกของผู้ค้าได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการในระยะสั้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
แนวโน้มตลาด:
แนวโน้มขาขึ้น: หากดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถทะลุแนวต้านที่ 98.32 ได้ ก็อาจนำไปสู่การดีดตัวกลับระยะสั้น การดีดตัวกลับเหนือแนวรับจะเป็นโอกาสให้ตลาดเป็นขาขึ้นระยะสั้น แต่แรงกดดันขาขึ้นที่จะทะลุผ่านแนวต้านนั้นยังคงมีอยู่มาก
แนวโน้มขาลง: ปัจจุบันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ประกอบกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงผันผวน ดอลลาร์สหรัฐฯ จะสามารถทรงตัวแนวรับที่ระดับ 97.60 ได้หรือไม่ จะเป็นปัจจัยกำหนดว่า ฝ่ายขาลงจะสามารถดันราคาลงไปที่ 97.00 หรือต่ำกว่านั้นได้หรือไม่ หากราคาลดลงต่ำกว่าแนวรับ 97.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเข้าสู่ช่วงการปรับฐานที่ลึกขึ้น
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง