ราคาเงินพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่ความคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้นเป็น 93%
2025-09-24 16:22:18
ความคาดหวังของตลาดต่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 93% จาก 90% ในวันก่อนหน้า ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME นักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยข้อมูล GDP ไตรมาสที่สองของสหรัฐฯ แบบรายปี และดัชนีราคา PCE พื้นฐานในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดขนาดและช่วงเวลาของการลดอัตราดอกเบี้ย
“ปัจจุบันตลาดกำลังจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่ ซึ่งความน่าจะเป็น 93% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน” นักวิเคราะห์ตลาดรายหนึ่งชี้

ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังกระตุ้นให้เกิดการซื้อเงินในสินทรัพย์ปลอดภัย นาโตกล่าวว่าจะ "ตอบโต้อย่างรุนแรง" ต่อการละเมิดน่านฟ้าของรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เตือนต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า หากรัสเซียไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน สหรัฐฯ จะเตรียมใช้ "มาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่ที่รุนแรงมาก" การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของตลาด ส่งผลให้ราคาเงินได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้น
นอกเหนือจากปัจจัยมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ราคาเงินยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อุปทานที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้สินค้าคงคลังที่ค้างอยู่ในสต็อกในปีที่แล้วถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว
คาดว่าการนำเข้าจากอินเดียจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทั้งเพื่อการลงทุนและการใช้ในอุตสาหกรรม
กราฟรายวันแสดงให้เห็นว่าราคาเงินยังคงแข็งแกร่งเหนือระดับ 44 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาขึ้น กราฟรายวันแสดงให้เห็นว่าราคากำลังเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากสามารถทรงตัวเหนือระดับ 43.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ คาดว่าตลาดจะยังคงขึ้นไปแตะระดับ 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป
ระดับการสนับสนุนด้านล่างอยู่ที่ 43.20 ดอลลาร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการขายทำกำไรหากราคาตกลงไปต่ำกว่านี้ แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น

ความคิดเห็นของบรรณาธิการ:
แนวโน้มขาขึ้นของราคาเงินในปัจจุบันได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ทั้งนโยบายการเงิน การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และอุปสงค์ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และท่าทีแข็งกร้าวของนาโต้ ก่อให้เกิดเงื่อนไขที่ราคาเงินจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจดีดตัวกลับ ส่งผลให้ราคาเงินปรับตัวลดลง ดังนั้น ควรจับตาดูแนวต้านสำคัญที่ 44.50 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเปิดโอกาสขาขึ้นเพิ่มเติมได้หลังจากทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปแล้ว
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง