แนวโน้มทางเทคนิคของทองคำกำลังอ่อนตัวลง ฝ่ายขาลงจะควบคุมสถานการณ์ต่อไปหรือไม่
2025-07-29 20:19:25

พื้นฐาน
ข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับภาวะชะลอตัวเล็กน้อย ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน JOLTS ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดที่ 12 ล้านตำแหน่งในเดือนมีนาคม 2565 โดยลดลงมาอยู่ที่ 7.7 ล้านตำแหน่งในเดือนมกราคม และแตะระดับต่ำสุดที่ 7.2 ล้านตำแหน่งในเดือนมีนาคม แต่หลังจากนั้นก็ฟื้นตัวขึ้นสองเดือนติดต่อกัน โดยแตะระดับ 7.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 7.55 ล้านตำแหน่งในเดือนมิถุนายน
การคาดการณ์นี้ถือเป็นแนวทางสำคัญสำหรับตลาด ในแง่หนึ่ง การลดลงอย่างต่อเนื่องของจำนวนงานบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่มีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากการเติบโตของค่าจ้าง ในทางกลับกัน หากตัวเลขจริงลดลงต่ำกว่า 7 ล้านตำแหน่งอย่างไม่คาดคิด ก็จะเพิ่มความคาดหวังอย่างมากต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีความน่าจะเป็นอยู่ที่ประมาณ 60% บนเครื่องมือ FedWatch ของ CME
ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาได้บรรลุข้อตกลงภาษีศุลกากรกับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลระยะสั้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่า แม้สถานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะลดลง โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนที่ 99 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่านี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทองคำ ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวได้ยาก
สำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยทั่วไป ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม หากข้อมูล JOLTS อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นในแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ทองคำอาจได้รับแรงหนุนใหม่
ด้านเทคนิค:
กราฟ Bollinger Bands รายวันของทองคำแสดงให้เห็นรูปแบบการรวมตัวด้านข้างที่ชัดเจน โดย Bollinger Band กลางอยู่ใกล้ 3,338 ดอลลาร์ ขณะที่ราคากำลังซื้อขายต่ำกว่า สะท้อนแนวโน้มระยะสั้นที่อ่อนแอ Bollinger Band ด้านบนมีแนวต้านสำคัญใกล้ 3,402 ดอลลาร์ ขณะที่ Bollinger Band ด้านล่างมีแนวรับใกล้ 3,274 ดอลลาร์ ซึ่งจำกัดช่วงราคา นักวิเคราะห์เชื่อว่าการหลุดต่ำกว่า 3,270 ดอลลาร์อาจเปิดช่องให้ราคาปรับตัวลงต่อไป

สำหรับตัวบ่งชี้ MACD เส้นเร็ว (DIFF) ยังคงอยู่ที่ 2.77 ขณะที่เส้นช้า (DEA) อยู่ที่ 7.22 โดยทั้งสองเส้นยังคงบรรจบกันใกล้แกนศูนย์ ฮิสโทแกรม MACD อยู่ในแดนลบ ปัจจุบันอยู่ที่ -8.90 บ่งชี้ว่าโมเมนตัมขาลงยังไม่อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากเกิดสัญญาณกากบาททองคำ (Golden Cross) ในระยะสั้น ราคาทองคำจะยังคงผันผวนในระดับต่ำต่อไป
ขณะนี้ดัชนี RSI อยู่ที่ 45.27 ซึ่งอยู่ในโซนเป็นกลางถึงอ่อนตัว บ่งชี้ว่ากำลังซื้อมีจำกัด หาก RSI ร่วงลงไปต่ำกว่า 40 แสดงว่าแรงขายอาจเพิ่มขึ้น และราคาอาจทดสอบจุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ 3,120 ดอลลาร์ในระยะสั้น
โดยรวมแล้ว การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 2,956 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่จุดสูงสุดที่ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หลังจากที่ขึ้นไปแตะระดับ 3,451 ดอลลาร์สหรัฐฯ โมเมนตัมก็ค่อยๆ อ่อนตัวลง ปัจจุบันราคาทองคำอยู่ในช่วงการปรับฐานแบบผันผวน และในทางเทคนิคแล้วมีแนวโน้มไปทางฝั่งขาย
การสังเกตความรู้สึกของตลาด
ภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมามีลักษณะผสมผสานระหว่างความระมัดระวังและรอดูสถานการณ์ ข้อตกลงภาษีศุลกากรช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง แม้ว่าตลาดจะบรรลุฉันทามติที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในสัปดาห์นี้ แต่ยังคงมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับแนวทางนโยบายในอนาคต
หากข้อมูล JOLTS ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก จะส่งผลให้ตลาดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและหนุนราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากข้อมูลใกล้เคียงกับหรือสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทองคำอาจไม่สามารถฝ่าฟันแรงกดดันขาลงได้ และตลาดอาจยังคงตัดสถานะซื้อต่อไป ภาพรวมของตลาดยังคงระมัดระวัง โดยนักลงทุนเลือกที่จะรอแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
แนวโน้ม
แนวโน้มระยะสั้น:
คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงผันผวนและปรับตัวขึ้นในระยะสั้นที่ 3,270 ถึง 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดรอสัญญาณจากการประชุม JOLTS และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากข้อมูลดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมาเป็นลบ ราคาทองคำคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและท้าทายแนวต้านที่ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางกลับกัน หากดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ราคาทองคำอาจร่วงลงไปที่ 3,270 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออาจทดสอบแนวรับสำคัญที่ 3,120 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว:
จากมุมมองในระยะกลางถึงระยะยาว นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มรอบการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน คาดว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวเชิงโครงสร้างและทดสอบระดับ 3,450 ดอลลาร์สหรัฐหรือแม้กระทั่ง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง ในทางตรงกันข้าม หากอัตราเงินเฟ้อที่สูงบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไป ราคาทองคำอาจเข้าสู่รูปแบบการรวมตัวในระยะยาวและอาจลดลงไปที่ระดับประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐก็ได้
- ข้อควรระวังและข้อยกเว้นความรับผิดชอบ
- การลงทุนมีความเสี่ยง กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ ข้อมูลในบทความนี้ใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้พิจารณาเป้าหมายการลงทุน พฤติกรรมทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บางราย การลงทุนโดยอ้างอิงจากบทความนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง